โฮเวิร์ด เวบบ์

โฮเวิร์ด เวบบ์ ยอมรับ VAR ตัดสินผิดพลาดในจังหวะเพนัลตี้เวสต์แฮมเกมเจอแมนฯ ยูไนเต็ด

โฮเวิร์ด เวบบ์ ยอมรับ VAR ตัดสินผิดพลาดในจังหวะเพนัลตี้เวสต์แฮมเกมเจอแมนฯ ยูไนเต็ด

VAR ตัดสินผิดพลาดในจังหวะเพนัลตี้ เวสต์แฮม (West Ham) เกมเจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United)

โฮเวิร์ด เวบบ์ (Howard Webb) หัวหน้าผู้ตัดสิน พรีเมียร์ลีก (Premier League) ออกมายอมรับว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (West Ham United) ไม่สมควรได้รับจังหวะเพนัลตี้ในเกมที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) 2-1 เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของ เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ในฐานะกุนซือทีมปีศาจแดง

เหตุการณ์เกิดขึ้นในจังหวะปะทะระหว่าง มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ (Matthijs de Ligt) กับ แดนนี่ อิงส์ (Danny Ings) โดยในตอนแรก เดวิด คูท (David Coote) ผู้ตัดสินในสนามไม่ได้เป่านกหวีดให้เป็นลูกโทษ แต่ ไมเคิล โอลิเวอร์ (Michael Oliver) ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ (VAR) แนะนำให้ คูท (Coote) ไปดูภาพช้าที่จอข้างสนาม ก่อนที่จะเปลี่ยนการตัดสินใจเป็นลูกเพนัลตี้

จาร์รอด โบเวน (Jarrod Bowen) รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไป ส่งผลให้ เวสต์แฮม (West Ham) เอาชนะไป 2-1 และนำไปสู่การปลด เทน ฮาก (ten Hag) ออกจากตำแหน่งในอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงต่อมา

เวบบ์ (Webb) ให้สัมภาษณ์กับรายการ Mic’d Up ของ สกาย สปอร์ตส์ (Sky Sports) ว่า “ผมคิดว่ามันเป็นการอ่านเกมที่ผิดพลาดของ VAR ซึ่งปกติแล้วเป็นผู้ตัดสินที่มีความสามารถและน่าเชื่อถือ แต่ในสถานการณ์นี้กลับโฟกัสมากเกินไปที่ขาของ เดอ ลิกต์ (de Ligt) ที่สัมผัสกับ อิงส์ (Ings) โดยไม่โดนบอล ทั้งที่จริงๆ แล้วลูกบอลผ่าน เดอ ลิกต์ (de Ligt) ไปแล้วตอนที่เขาปะทะกับ อิงส์ (Ings)”

“VAR ให้น้ำหนักกับจังหวะฟาวล์มากเกินไป การแทรกแซงการตัดสินใจในสนามแบบนี้ไม่เหมาะสม ผมเชื่อว่าควรเคารพการตัดสินของผู้ตัดสินในสนาม และจากมุมมองของผม นี่ไม่ใช่จังหวะเพนัลตี้”

ทั้งนี้ ผู้ตัดสินในสนามไม่จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของ VAR เสมอไป ซึ่ง เวบบ์ (Webb) ได้อธิบายว่า “พวกเขาได้รับแจ้งว่ามีสิทธิ์ที่จะยืนยันการตัดสินใจของตัวเองเมื่อไปดูภาพที่จอข้างสนาม”

เดอ ลิกต์ (de Ligt) กองหลังทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) ได้เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวทีมชาติว่า “คณะกรรมการผู้ตัดสินได้โทรมาบอกว่ามันไม่ใช่จังหวะเพนัลตี้ ปกติผมมักจะวิจารณ์ตัวเองและรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่ผมทำไม่ดี แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของผม ผมไม่สามารถตำหนิตัวเองได้”

นอกจากนี้ เวบบ์ (Webb) ยังได้พูดถึงกรณีของ เดวิด คูท (David Coote) ผู้ตัดสินที่ถูกพักงานทันทีหลังจากมีวิดีโอที่เขาพูดจาดูหมิ่น ลิเวอร์พูล (Liverpool) และ เจอร์เกน คล็อปป์ (Jurgen Klopp) อดีตผู้จัดการทีมเผยแพร่ออนไลน์และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด eaxybox สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

“เราได้รับทราบเกี่ยวกับวิดีโอที่กำลังแพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเรากำลังดำเนินการอย่างจริงจัง” เวบบ์ (Webb) กล่าว “เราได้เริ่มการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบ และได้สั่งพักงาน เดวิด คูท (David Coote) ทันทีจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น ตอนนี้ผมไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้จนกว่าเราจะดำเนินการสอบสวนเสร็จ”

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการใช้ระบบ VAR และความสำคัญของการรักษามาตรฐานการตัดสินใน พรีเมียร์ลีก (Premier League) รวมถึงความจำเป็นในการทบทวนและปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจ เพื่อลดข้อผิดพลาดที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการแข่งขันและอาชีพของผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งในอนาคตอาจต้องมีการพัฒนาระบบและแนวทางการใช้ VAR ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การตัดสินในเกมฟุตบอลมีความยุติธรรมและแม่นยำมากที่สุด

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ โฮเวิร์ด เวบบ์ มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด eaxybox สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

พรีเมียร์ลีกอังกฤษกับศึกการแย่งพื้นที่บอลยุโรปปีนี้ คืออีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้การลุ้นแชมป์เลย!

พรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก

หลังจากที่ศึกการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล2014-2015นี้นั้น ได้เดินทางผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งทางหลัง หรือว่าผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังไปเป็นที่เรียบร้อยได้ซักระยะนึงแล้วนั้น สำหรับในตอนนี้หากดูจากตารางคะแนนแล้วก็คงต้องบอกว่า ดูเหมือนทีมที่จะน่าจะลุ้นแย่งตำแหน่งแชมป์ของฤดูกาลนี้ไปจนถึงท้ายๆฤดูกาลก็คงเหลือเพียงแค่เชลซีและแมนซิตี้แน่นอน เพราะหากดูจากตารางคะแนนในตอนนี้ จะเห็นได้ว่าชัดเจนเลยว่า ทั้งสองทีมหัวตารางอย่างเชลซีและแมนซิตี้นั้น เริ่มทิ้งห่างทีมที่เหลือไปเรื่อยๆแล้ว อีกทั้งที่ผ่านมานั้นผลงานของทั้งสองทีมพวกเขาคือสองทีมที่รักษาความสม่ำเสมอของผลงานได้ดีที่สุด แม้ว่าจะเหลืออีกหลายนัดก็ตามแต่ก็เชื่อว่า สุดท้ายแล้วเส้นทางการลุ้นแชมป์ปีนี้ก็คงเหลือแค่เชลซีและแมนซิตี้ที่จะตัดสินใจกันเอง แต่จะเป็นทีมไหนที่เป็นทีมคว้าแชมป์มาได้สำเร็จนั้น ก็คงต้องรอดูกันต่อไป

แต่อย่างไรก็ดี แต่พอหลังจากที่ได้ดูสถานการณ์ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ล่าสุดที่ผ่านมา คงต้องบอกว่า ดูเหมือนนอกจากเส้นทางลุ้นแชมป์ที่เหลือระหว่างเชลซีและแมนซิตี้นั้น จะเป็นสิ่งที่น่าสนใจแล้ว ในส่วนของศึกการแย่งชิงพื้นที่บอลยุโรปในฤดูกาลหน้านั้น ดูเหมือนจะเข้มข้นและน่าสนใจไม่แพ้เหมือนกันเลยทีเดียว นั่นก็เพราะว่าจะเห็นได้ว่า หากไล่ตั้งแต่อันดับสามของตารางลงจนถึงประมาณอันดับที่8แถวๆกลางตารางนั้น คะแนนของแต่ละทีมสูสีกันเลยทีเดียว ห่างกันเพียงไม่กี่คะแนนเท่านั้น เรียกได้ว่ายังมีโอกาสพลิกแซงกันได้ตลอดเวลานั่นเอง

โดยไล่ตั้งแต่ที่แมนยูซึ่งรั้งอันดับสามของตาราง ที่แม้ที่ผ่านมานั้น ผลงานการเล่นโดยรวมของทีมจะยังไม่เข้าที่เท่าที่ควร แต่พวกเขาก็เริ่มสามารถเก็บคะแนนได้ต่อเนื่องจนสามารถเกาะกลุ่มหัวตารางได้หลายสัปดาห์เหมือนกัน ต่อมาทีมที่ถือว่าทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้อย่างค่อนข้างเซอร์ไพรส์อย่าง เซ้าท์แธมป์ตันนั้น แม้ระยะหลังพวกเขาจะเริ่มสะดุดติดต่อกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ยังสามารถเกาะกลุ่มท็อปโฟร์ได้อย่างเหนียวแน่น ต่อมาในส่วนของอาร์เซน่อลของกุนซือ อาร์เซน เวนเกอร์นั้นก็เริ่มทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ส่วนลิเวอร์พูลเองตั้งแต่ได้กองหน้าตัวเก่งอย่าง ดาเนี่ยล สเตอริดจ์กลับมา ทีมก็เริ่มทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะทีมสามารถเก็บชัยชนะได้ติดต่อกัน ส่วนสเปอร์สเองระยะหลังๆนั้น ก็ฟอร์มร้อนแรงใช้เล่นเลย เรียกได้ว่า ไล่ตั้งแต่แมนยูยาวลงมาถึงสเปอร์สนั้น ทุกทีมต่างก็ทำผลงานในช่วงระยะหลังๆได้ดีกันทั้งนั้น จนทำให้ต้องบอกว่า มองไม่ออกจริงๆว่า สุดท้ายแล้วอีกสองทีมที่เหลือนอกจากเชลซีและแมนซิตี้นั้น จะมีทีมใดบ้างที่เป็นฝ่ายสามารถคว้าตั๋วสองใบสุดท้ายเพื่อคว้าโควต้าไปเตะบอลยุโรปอย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ ซึ่งถือว่า ศึกการลุ้นแย่งพื้นที่บอลยุโรปพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกันนั่นเอง.