เป็นอีกหนึ่งครั้งที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของพวกเค้าเอง ด้วยการล้มทีมที่ดีที่สุดในโลกอีกทีมหนึ่งอย่าง ปารีส เพื่อกรุยทางเข้ารอบไปยืนรอชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ หรือ UCL เสียที หลังจากพยายามทำมาอย่างยาวนาน การเข้าชิงของเค้าครั้งนี้ทำให้เกิดสถิติมากมาย
เข้าชิงเป็นครั้งแรก และ ผู้ชิงหน้าใหม่
การเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเข้าชิงชนะเลิศครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสรกันเลยทีเดียว ไม่เท่านั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังเป็นทีมหน้าใหม่รายที่ 42 ที่เข้าชิงรายการนี้ แต่หากนับเฉพาะอังกฤษ เค้าเป็นทีมหน้าใหม่รายที่เก้า ต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล เชลซี, อาร์เซนอล, สเปอร์ส, ลีดส์ , แอสตัน วิลลา และ นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถือว่าเท่ไม่หยอกทีเดียว
ผลงานชนะรวด
การเอาชนะเกมกับปารีส ทั้งสองเกม นั่นทำให้พวกเค้ากลายเป็นทีมที่ทำสถิตใหม่เลยก็คือ การเอาชนะติดต่อกันเจ็ดนัดรวดเป็นสถิติที่ดีที่สุดในรายการนี้หากนับเฉพาะทีมจากอังกฤษด้วยกัน ซึ่งน่าเสียดายที่หลุดเสมอไปในรอบแบ่งกลุ่ม ในเกมนัดแข่งที่ห้า ที่เจอกับปอร์โต้ หากเกมนั้นพวกเค้าชนะได้อีก ก็จะเท่ากับว่าพวกเค้าชนะรวดทั้งหมด 12 เกมตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มเลยทีเดียว
ปลดล็อค เป๊ป
ทุกทีมที่เป๊ปไปคุมทีมหลังจากไม่ได้คุมบาร์ซาแล้วพวกเค้าหมายมั่นปั้นมือว่า จะต้องพาทีมต้นสังกัดคว้า UCL ได้แต่ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากออกจากบาร์ซา นี่ก็เป็นเวลาเกือบสิบปีแล้วที่เป๊ป ได้ปลดล็อค พาทีมที่เค้าคุมเดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศของ UCL ได้เสียที ก่อนหน้านั้นเค้าพาทีมาถึงตรงนี้ได้สองครั้งเมื่อปี 2009, 2011 ได้แชมป์ทั้งสองครั้ง ต้องดูกันว่า คราวนี้เป๊ป จะทำได้อีกครั้งหรือไม่
อีกหนึ่งสถิติสุดท้ายเป็นเรื่องราวบังเอิญ นั่นก็คือ ผู้รักษาประตูมือสามของแมนซิตี้อย่าง สกอตต์ คาร์สัน เค้าจะได้มีชื่ออยู่ในทีมที่เข้าชิงชนะเลิศ UCL อีกครั้งที่สนามเดิมก็คือ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี หลังจากเค้าเคยทำได้มาแล้วกับลิเวอร์พูลที่เข้าชิงรายการ UCL เมื่อปี 2005 ที่สนามเดียวกัน