หงส์แดง เผยว่าที่ 11 ตัวจริงลองสูตรใหม่บุกเยือน ฟูแล่ม กู้วิกฤตฟอร์มตก

“The Express” สื่อดังของอังกฤษ ได้วิเคราะห์รูปแบบการเล่นของ “ลิเวอร์พูล” ในนัดถัดไปที่มีคิวจ่อบุกไปเยือน “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ซึ่ง เจอร์เกน คล็อปป์ ได้ปรับเปลี่ยนระบบการเล่น (จากเดิมที่เป็น 4-3-3 มาเป็น 4-2-3-1) พร้อมกับหมุนเวียนนักเตะบางรายให้มายืนในตำแหน่งใหม่สำหรับแมตช์นี้ด้วย

หลังจากที่ลิเวอร์พูลในช่วงที่ผ่านมาทำผลงานย่ำแย่โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่บุกไปพ่ายต่อ เร้ด สตาร์ เบลเกรด มาอย่างราบคาบด้วยสกอร์ 0-2
ทำให้เกมนัดถัดไป เจอร์เกน คล็อปป์ ต้องคิดหนักปรับแผนระบบการเล่นมาใช้แผน 4-2-3-1 และเปลี่ยนตำแหน่งการยืนของนักเตะบางรายด้วย อีกทั้ง นาธาเนี่ยล ไคลน์
อาจได้คัมแบ็คกลับมาลงประเดิมเกมลีกเป็นนัดแรกในแมตช์นี้ด้วย

คาดการณ์ 11 ตัวจริงของ ลิเวอร์พูล เกมเยือน ฟูแล่ม
ระบบ : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : อลิสซอน เบ็คเกอร์
แบ็คขวา : นาธาเนี่ยล ไคลน์
เซ็นเตอร์แบ็ค : เดยัน ลอฟเรน
เซ็นเตอร์แบ็ค : เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค
แบ็คซ้าย : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
มิดฟิลด์ตัวรับ : จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
มิดฟิลด์ : นาบี้ เกอิต้า
มิดฟิลด์ตัวรุก : โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
ปีกซ้าย : ซาดิโอ มาเน่
ปีกขวา : เซอร์ดาน ชากิรี่
ศูนย์หน้า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์

เกร็ดที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ลิเวอร์พูล ดวลแข้ง เซอร์เวน่า คืนนี้

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่น่าสนใจในคืนวันที่ 24 ตุลาคม นี้ ระหว่าง หงส์แดง – ลิเวอร์พูล ดวลแข้งกับ เซอร์เวน่า มีประเด็นที่น่าสนใจก่อนเกมการแข่งขันมาฝาก หงส์แดง ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมเปิดรัง 
แอนฟิลด์ ดวลกับ เซอร์เวน่า ซเวซด้า สโมสรดังจากเซอร์เบีย ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งลูกทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ หมายมั่นปั้นมือเหลือเกินที่จะคว้าชัยชนะให้ได้ หลังจากที่เกมก่อนออกไปแพ้ นาโปลี 
แบบเจ็บปวดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 

ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล กับ เซอร์เวน่า ซเวซด้า เคยพบกันแค่สองครั้งเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูโรเปี้ยน คัพ ฤดูกาล 1973-74 และเป็น เซอร์เวน่า ที่คว้าชัยด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งสองนัด 
นอกจากนี้ เซอร์เวน่า ยังเป็นสโมสรเดียวจากเซอร์เบีย ที่ “หงส์แดง” เคยเจอในเวทียุโรป เซอร์เวน่า ชนะเพียงแค่หนเดียว จาก 9 นัดในการออกไปเยือนสโมสรอังกฤษ (เสมอ 4, แพ้) ซึ่งนั่นก็คือการบุกเชือด 
ลิเวอร์พูล 2-1 ช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 1973  หากไม่นับรวมรอบคัดเลือก ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครเลยในเกมเหย้า 16 นัดหลังสุดถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก (ชนะ 11, เสมอ 5) แถมทำได้ถึง 39 ประตู 

ลิเวอร์พูล แพ้ 3 จาก 4 เกมหลังสุดในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก (ชนะ 1) ซึ่งเป็นจำนวนแพ้ที่เท่ากับ 17 เกมก่อนหน้านั้น (ชนะ 8, เสมอ 6) เซอร์เวน่า ชนะแค่ครั้งเดียว จาก 8 เกมหลังสุดในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก 
(ไม่นับรวมรอบคัดเลือก) โดยเป็นการแพ้ 3 ครั้ง, เสมอ 4 ครั้ง แถมทำได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้สองเกมติดในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2014 ซึ่งตอนนั้นพวกเขาแพ้ถึงสามเกมติด 

มาร์โค มาริน เป็นคนทำประตูแรกให้ เซอร์เวน่า ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ทีมออกไปแพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-6 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก 
นับตั้งแต่ที่ยิงให้ แวร์เดอร์ เบรเมน เกมที่พบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2010 “ถือเป็นการเจอสองนัดติดที่ดีสำหรับ ลิเวอร์พูล ช่วงนี้ ลิเวอร์พูล อาจจะไม่ร้อนแรง แต่ก็ถือว่าออกสตาร์ตได้ดีในลีก 
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เพิ่งทำประตูได้ในเกมเมื่อสุดสัปดาห์ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ก็ได้เล่น ส่วน ฟาบินโญ่ ก็ได้เล่น 20 นาที ดังนั้นคงต้องมีการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งกัน และผมก็ไม่คิดอย่างอื่นเลย
นอกจากชัยชนะที่ง่ายดายสำหรับ ลิเวอร์พูล” และชาร์ลี นิโคลัส ตำนานหัวหอก อาร์เซน่อล และกูรูแห่ง Sky Sports ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ เซอร์เวน่า ซเวซด้า 4-0